เทคนิคการลงทุน ว่าด้วยหุ้นกับหมากล้อม

http://www.thaigo.org/modules.php?name=AvantGo&file=print&sid=64


เทคนิคการลงทุน ว่าด้วยหุ้นกับหมากล้อม
วัน พฤหัสบดี 27 พ.ค. 04 @ 05:37
หัวข้อ: เก็บมาฝาก


บทความนี้คัดลอกจาก http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I2774722/I2774722.html

เห็นว่าเป็นอีกหนึ่งแนวคิดในการนำหมากล้อมไปประยุกต์ใช้ แต่ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ ซึ่งเรื่องของแนวคิดเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ขึ้นอยู่กับผู้นำไปใช้มีความเข้าใจลึกซึ้งเพียงใด .... นำมาให้อ่านกันครับ



เรื่อง"เทคนิคการลงทุน" บอกก่อนนะคะว่ามีชื่อหุ้นอยู่ด้วย อย่าเชื่อมาก

ผู้เขียนเรื่องนี้คือคุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์
ผู้เขียนหนังสือ "กลยุทธ์ หุ้นห่านทองคำ"

พิจารณาก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ประการใดก่อนนำไปใช้นะคะ

ซื้อกลับเมื่ออ่อนตัว

ในการลงทุนซื้อ-ขายหุ้น ผมจะบันทึกทั้งจำนวนและราคาไว้อย่างชัดเจน มันช่วยให้ผมสามารถกำหนดกลยุทธ์ของก้าวต่อไปได้ง่ายขึ้น การมีบันทึกที่ชัดเจนช่วยให้ผมสามารถลดต้นทุนของหุ้นได้โดยการซื้อหุ้นที่ได้ขายไปกลับในราคาที่ต่ำลง

นอกจากนี้ผมได้ดัดแปลงเทคนิคการลงทุนจากกลยุทธ์การเล่นหมากล้อม (โกะ)ซึ่งพูดถึงหลักที่น่าสนใจอย่างน้อย 2 ข้อคือ

1. การชนะด้วยการไม่พยายามจะเอาชนะ
2. หมากที่จะชนะได้ต้องมีโครงสร้างของหมากที่ดี

สำหรับหลักข้อแรกนั้น ผมนำมาใช้กับตลาดหุ้น คือไม่พยายามจะทุ่มเงินซื้อหุ้นแบบ ต้องการเห็นผลกำไรอย่างรวดเร็วในระยะสั้นๆ เพราะอาจขาดทุนหมดตัวได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน การคำนึงถึงหลักนี้ทำให้ผมใจเย็น มีความอดทน คำนึงถึงผลได้ที่ยั่งยืนในระยะยาว

ส่วนหลักข้อสองนั้น ทำให้ผมต้องคัดเลือกหุ้นที่มีโครงสร้างที่ดี หุ้นที่มีโครงสร้างที่ดีหมายถึงต้องเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ราคาต้องไม่สูงจนเว่อร์ ถ้าให้ดีต้องสามารถให้ dividend yield ใกล้ๆ 10%

ผมเห็นว่าหุ้นตัวใดที่มี dividend yield ต่ำกว่า 5% เป็นหุ้นที่มีราคาแพงเกินไป ผมมักจะเลี่ยงเพราะกลัวตกอยู่ในสภาพยิ่งสูงยิ่งหนาว

นอกจากผมจะพิจารณาเห็นว่าหุ้นตัวนั้นจะมีอัตราการเติบโตของการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์สูงคือเกิน 20% ต่อปีผมก็อาจจะซื้อไว้บ้างแม้ว่า dividend yield ของปีปัจจุบันจะอยู่ต่ำกว่า 5% เพราะอนาคต เมื่อมีกำไรสูงขึ้น DPS ก็ย่อมจะสูงขึ้นตาม ทำให้ dividend yield มีโอกาสปรับตัวสูงกว่า 5%

การเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีและในราคาที่เหมาะสมคือหลักการสำคัญที่ผมเชื่อว่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างเช่น ตัวอย่างหุ้นธุรกิจยางที่ผมเคยเรียนว่ามีโอกาสถือสูงถึง 5,000 หุ้น แบบฟรี ๆ เพราะผมได้เข้าไปซื้อในจังหวะที่เหมาะสมกว่า 40,000 หุ้นและเมื่อเวลาหุ้นวิ่งขึ้นก็ทยอยขายออกไป 35,000 หุ้นเพื่อนำกำไรมาลดต้นทุนหุ้นที่เหลืออยู่จนต่ำกว่าศูนย์

ที่สำคัญคือหุ้นที่ผมเลือกแล้ว เวลาขายผมจะไม่ขายหมด จะต้องเหลืออยู่ส่วนหนึ่งเสมอแต่เป็นการเหลืออยู่ในลักษณะที่ปลอดภัยเพราะมักจะอยู่ต่ำกว่าราคาตลาดค่อนข้างมากทีเดียว ขณะเดียวกันผมก็จะเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแบบห่างๆเพื่อว่าถ้ามีการปรับตัวลดต่ำลง อาจจะเป็นโอกาสให้ผมได้ซื้อหุ้นที่ขายไปกลับมาเข้าพอร์ต

กลับมาที่หุ้นยางอีกครั้งนะครับ หลังจากที่ราคาหุ้นวิ่งสูงขึ้นเพราะข่าวดีเรื่องการรวมตัวของสามประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่ไปสักระยะหนึ่งก็มีข่าวด้านลบปรากฎออกมา

นั่นคือมีกระแสข่าวว่าประเทศหนึ่งในสามมีการระบายสต็อคยางออกตลาดกว่า 100,000 ตัน เป็นผลกดดันให้ราคายางอ่อนตัวลงอย่างรุนแรง

ข้อมูลนี้คือหมีตัวใหญ่ที่ตะปบเข้ามาที่หุ้นยางที่ผมกล่าวถึง ราคาจึงไหลลงมาอยู่แถวๆ 15.50 – 15.60 บาท

ผมกลับไปดูบันทึกของผม ก็พบว่ามีรายการที่ผมขายออกไปตั้งแต่ 18.00 – 21.00 บาท จึงเห็นเป็นโอกาสอันดีที่จะซื้อกลับเพราะการอ่อนตัวของราคา ปรากฎว่าผมซื้อกลับมาได้ 12,000 หุ้น@ 15.60 บาท แม้ราคาจะอ่อนลงต่อไปถึง 14.00 บาท ผมก็ยังไม่รู้สึกเดือดร้อนเพราะเมื่อคิดถั่วเฉลี่ยกับหุ้นในมือที่ผมมีอยู่แล้วอีก 5,000 หุ้น ต้นทุนถั่วเฉลี่ยสุทธิก็ตกหุ้นละเพียง 11.00 บาทเท่านั้น ต่อมาราคาหุ้นก็ค่อยๆ ขยับสูงซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเพราะราคายางเริ่มขยับขึ้นมาใหม่จากการรวมตัวของประเทศผู้ผลิตยางหรือเปล่า เพราะผมเช็คดูผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 และ 3 ก็ยังไม่ดี ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทและเป็นการลดความเสี่ยงผมก็วางหมาก take profit ออกไปก่อนดังนี้

ขาย (หุ้น) ราคา (บาท)
2,000 17.00
2,000 17.50
2,000 18.00
2,000 18.50

การขายออกแบบนี้ ผมได้ความคิดมาจากโกะเหมือนกันเพราะมีเทคนิคการไล่ล่าจับหมากคู่ต่อสู้กิน เรียกว่าเทคนิคขั้นบันได ผมจึงทยอยออกทีละ 2,000 หุ้นในราคาที่สูงขึ้น การวางหมากการขายแบบนี้เปิดโอกาสให้ผมมีโอกาสจะซื้อคืนเมื่ออ่อนตัวได้ถึง 8,000 หุ้น

หลังจากการขายหุ้น 8,000 หุ้นดังกล่าวข้างต้นไปแล้ว ผมยังเหลือหุ้นทั้งหมดอีก 9,000 หุ้น ในราคาต้นทุนถัวเฉลี่ยสุทธิที่ 5.21 บาทต่อหุ้น

และแล้วโดยที่ผมไม่ได้คาดคิดมาก่อนทางบริษัทก็ประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2545 ถึงหุ้นละ 1.50 บาทอีกครั้งหนึ่งซึ่งเท่ากับที่จ่ายในปี 2544 เหตุผลเพราะผลของไตรมาส 4 /45 ออกมาดีมาก! Dividend Yield ที่ผมได้รับจึงออกมาเท่ากับเกือบ 30%!

นี่คือผลตอบแทนที่ผมได้รับในฐานะนักลงทุนรายย่อย ผมมองว่าตลาดหุ้นมีความเสี่ยง แต่ถ้าเรามีวิธีจัดการกับความเสี่ยงได้ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คุ้มเกินคุ้ม ทางเดียวที่จะลดความเสี่ยงได้

จำเป็นที่จะต้องมีความรู้พอที่จะพึ่งพิงตนเองได้ในการเลือกหุ้นและในการบริหารพอร์ต

กลยุทธ์การซื้อหุ้นที่ขายไปกลับมาในราคาที่อ่อนตัวลงก็คือไม้เด็ดท่าหนึ่งที่จะทำให้ dividend yield ในพอร์ตเติบโตได้รวดเร็วขึ้น การไม่โลภจนเกินไป ด้วยการทยอยขายหุ้นบางส่วนออกไปก่อนเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างไม่ค่อยมีเหตุผล คือปัจจัยสำคัญที่เอื้ออำนวยให้นักลงทุนมีโอกาสซื้อกลับเมื่ออ่อนตัวได้เพราะบ่อยครั้งทีเดียว ที่ตลาดมักจะ over react กับข่าวด้านลบจนเกินไป มีการเทขายจนราคาหุ้นตกต่ำลงกลายเป็น bargained price ไม่ต้องไปแย่งซื้อก็สามารถได้ของดีราคาถูกๆ

ดังนั้นจึงควรมีการติดตามดูตลาดบ้าง ไม่ใช่ขายแล้วปล่อยเลยตามเลย เสียดายโอกาสดีๆครับ

................................................................

คำนำผู้เขียน: เป็นการรวมบทความที่ได้ลงในนิตยสาร Money & Wealth รายเดือนส่วนหนึ่งและได้เขียนเพิ่มเติมจนครบทั้ง 5 ภาค คือ ก่อนเข้าถ้ำเสือ ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ เครื่องมือสำคัญ พลังแห่งมด และ ความสุขในสวน

รายละเอียดหนังสือ:หนังสือ “วิถีแห่งเซียน...หุ้นห่านทองคำ” เขียนโดย เทพ รุ่งธนาภิรมย์ ผู้เขียนหนังสือกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ ซึ่งติดอันดับหนังสือขายดีของร้าน ซีเอ็ด บุ๊คเซ็นเตอร์ เนื้อหาของหนังสือประกอบด้วยแนวคิด กลยุทธ์ และเทคนิคการ วิเคราะห์การลงทุน ในหลักทรัพย์ในเชิงลึก หนังสือเล่มนี้จะช่วยเสริมให้ผู้ที่เคยอ่านหนังสือกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ มีความรู้ความเข้าใจ ในหลักการลงทุนได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีเนื้อหาที่เป็นอิสระจากกัน ไม่จำเป็นที่ผู้อ่านจะต้องอ่านหนังสือ กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำมาก่อน จึงจะอ่านเข้าใจ

หาซื้อหนังสือได้ที่ Book Shop ชั้น 1 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศูนย์หนังสือจุฬาฯธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Asia Books

คัดลอกมาจาก
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/1082447742310/index_expert_thep3.html

เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ยังใหม่และขาดประสบการณ์ ทั้งหนังสือมีมากมายตามอ่านไม่ไหว ถ้าเรื่องนี้พอเป็นประโยชน์กับท่านได้บ้างจะดีใจมากค่ะ

อ้อ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการเชียร์หุ้นนี้หรือเปล่า เพราะมีชื่อหุ้นอยู่ด้วย ไม่รู้เหมือนกับในหนังสือหรือเปล่าเพราะยังไม่เคยอ่าน ดิฉันถนัดหาข้อมูลอ่านตามเน็ตมากกว่าค่ะ ว่างๆก็ค้นไปเรื่อยๆ โปรดใช้วิจารณญานด้วยนะคะ








บทความนี้มาจาก สมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย
http://www.thaigo.org

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.thaigo.org/modules.php?name=News&file=article&sid=64

Comments

Popular posts from this blog

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธุรกิจ

การเดินทางของวิชาเศรษฐศาสตร์

ความสำคัญของวิชาเศรษฐศาสตร์ม�